Hyaluronic Acid Market

Hyaluronic Acid Market

ตลาด Dermal Fillers ในประเทศไทย ได้ถูกคาดหวังไว้ว่าจะเติบโตสูงถึง 277 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ ภายในปี 2030 ตลาดฟิลเลอร์ผิวหนังของประเทศไทยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 10.3% ในช่วงปี 2024 ถึง 2030

 

การเติบโตในปี 2023

  • รายได้ในปี 2023 – 139.1 ล้านดอลล่าห์
  • การคาดคะเน รายได้ 2030 = 277.1 ล้านดอลล่าห์
  • เติบโต 10.3%

ไฮไลท์ตลาดฟิลเลอร์ผิวหนังในประเทศไทย

  • ตลาดฟิลเลอร์ผิวหนังของประเทศไทยสร้างรายได้ 139.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 277.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030
  • ตลาดในประเทศไทยคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 10.3% ตั้งแต่ปี 2024 ถึง 2030
  • ในแง่ของผลิตภัณฑ์ กรดไฮยาลูโรนิกเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้สูงสุดในปี 2023
  • กรดไฮยาลูโรนิกเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำกำไรสูงสุดและมีการเติบโตเร็วที่สุดในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์
** CAGR คือ Compound annual growth rate

สรุปข้อมูลตลาด Dermal fillers

Market revenue in 2023 USD 139.1 million
Market revenue in 2030 USD 277.1 million
Growth rate 10.3% (CAGR from 2023 to 2030)
Largest segment Hyaluronic acid
Fastest growing segment Hyaluronic acid
Historical data 2018 – 2022
Base year 2023
Forecast period 2024 – 2030
Quantitative units Revenue in USD million
Market segmentation Hyaluronic acid, Calcium hydroxylapatite, Polylactic acid (PLLA), Polymethyl-methacrylate microspheres
Key market players worldwide Galderma Group AG Registered Shares, Allergan, Revance Therapeutics Inc, Elevance Health Inc, Merz Pharma, Suneva Medical, Prollenium Medical Technologies, Teoxane Laboratories Geneva, Huadong Medicine, Marllor Biomedical, Sinclair Pharma plc, Medytox
 

ขนาดและแนวโน้มของตลาดกรดไฮยาลูโรนิก

ขนาดตลาดกรดไฮยาลูโรนิกทั่วโลกมีมูลค่า 10.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 7.7% ในช่วงปี 2024 ถึง 2030 ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดคือจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น ตามการประมาณการขององค์การอนามัยโลก (WHO) สัดส่วนของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 1 พันล้านคนในปี 2020 เป็น 1.4 พันล้านคนในปี 2030 และคาดว่าจำนวนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.1 พันล้านคนภายในปี 2050 ความตระหนักที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยและความชุกสูงของโรคเป้าหมายเป็นปัจจัยที่คาดว่าจะขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดในช่วงเวลาที่คาดการณ์ไว้

us-hyaluronic-acid-market

การระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นโรคประจำถิ่น ส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดผลิตภัณฑ์กรดไฮยาลูโรนิกในปี 2020 สาเหตุมาจากการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดและข้อจำกัดที่บังคับใช้โดยประเทศต่างๆ ทั่วโลก กรดไฮยาลูโรนิกถูกใช้อย่างแพร่หลายในเทคนิคการรักษาทางจักษุวิทยา เช่น การฉีดยาเข้าวุ้นตา การรักษาโรคตาแห้ง และคอนแทคเลนส์ ตามบทความของ NCBI (National Center for Biotechnology Information) ที่เผยแพร่ในเดือนสิงหาคม 2021 ระบุว่า ในปี 2020 มีการลดลงของการส่งต่อผู้ป่วยเพื่อรับการดูแลด้านจักษุวิทยาลดลงถึง 54.2% และการเยี่ยมแผนกฉุกเฉินด้านจักษุวิทยาลดลงถึง 73% ในช่วงล็อกดาวน์ระยะแรกของการระบาด

มีการรับรู้และตระหนักที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย และมีการส่งเสริมความต้องการในการรักษาทางด้านความงามและต่อต้านริ้วรอย ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ยืดหยุ่นและให้ความชุ่มชื้น รวมถึงระดับความเป็นพิษที่ต่ำกว่า ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์กรดไฮยาลูโรนิกสำหรับการแก้ปัญหาต่อต้านริ้วรอยแบบที่เป็นพิษน้อยมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้น

ปัจจุบัน มีคนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิง ให้ความสำคัญกับความงามและการดูอ่อนเยาว์ ส่งผลให้มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยเพิ่มขึ้น ความต้องการผลิตภัณฑ์กรดไฮยาลูโรนิก เช่น ฟิลเลอร์ผิวหนัง และการรักษาโรคปัสสาวะไหลย้อนผ่านท่อไต (vesicoureteral reflux) คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความตระหนักที่มากขึ้นและลักษณะของการรักษาที่รุกรานน้อย (minimally invasive nature)

ในทวีปอเมริกาเหนือ ความตระหนักและความต้องการผลิตภัณฑ์ดังกล่าวสูงที่สุด ตามรายงานจาก Premium Beauty News ที่เผยแพร่ในเดือนพฤษภาคม 2023 ในสหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยยังคงได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้หญิง โดยประมาณ 70% ของผู้หญิงที่สำรวจกล่าวว่าพวกเธอซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย และ 55% มีผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 3 ชนิดที่มีฉลากเป็นผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย พวกเธอมักมองหาประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอย เช่น การลดริ้วรอย การปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว การป้องกันแสงแดด และการให้ความชุ่มชื้นระดับลึก โดยสิ่งเหล่านี้กำลังส่งเสริมความต้องการในตลาดของกรดไฮยาลูโรนิก

ข้อมูลอ้างอิง

[1] Skin Aging โดย Francesc Cebrià

[2] Filler Sculptra by V Square

[3] Data Book – Thai Market Research